Blog
บราซิลเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้และเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก มีประชากรมากกว่า 210 ล้านคน ประเทศนี้มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิประเทศที่สวยงาม ดนตรี การเต้นรำที่มีชีวิตชีวา และอย่าลืม 'ฟุตบอล' เพราะพวกเขาคือประเทศที่ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกมากที่สุดถึง 5 สมัย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าประเทศบราซิลพูดภาษาอะไรเป็นภาษาราชการ? ภาษาราชการของบราซิล ภาษาราชการของบราซิลคือภาษาโปรตุเกส ซึ่งเข้ามาในประเทศโดยเจ้าอาณานิคมโปรตุเกสในศตวรรษที่ 16 ปัจจุบัน ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาหลักที่ประชากรเกือบทั้งหมดของบราซิลใช้พูด ทำให้เป็นประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกสที่มากที่สุดในโลก ภาษาอื่น ๆ ที่พูดในบราซิล แม้ว่าภาษาโปรตุเกสจะเป็นภาษาราชการ แต่บราซิลก็มีภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศ ภาษาพื้นเมือง เช่น Guarani, Tupi และ Nheengatu เป็นภาษาพูดโดยชุมชนพื้นเมืองทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีประชากรจำนวนมากในบราซิลที่พูดภาษาสเปน อังกฤษ...
อ่านต่อ
ไม่ว่าคุณจะไปรับประทานอาหารระหว่างอยู่ในทริปที่ฮาวาย แวะทานอาหารกลางวันจานด่วนจากบาร์แซนด์วิชในมหานครนิวยอร์ก หรือรับบริการรูมเซอร์วิสระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจที่ลอนดอน การรู้วิธีสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก รวมทั้งสร้างสร้างความสบายใจและหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าคุณอาจรู้จักรายการอาหารต่างๆ ในภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แต่การพูดว่า "ชีส" หรือ "มะเขือเทศ" ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถสั่งอาหารที่ร้านอาหารหรือทางโทรศัพท์ได้ทั้งหมด นั่นเป็นเหตุผลที่ในบทความนี้ เราจะเสิร์ฟคุณด้วยคำและสำนวนที่มีประโยชน์ 104 คำเพื่อช่วยให้คุณสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษได้แบบเจ้าของภาษา วิธีสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษา วิธีการสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษจะขึ้นอยู่กับว่าคุณสั่งอาหารจากที่ไหน ดังนั้น ก่อนที่เราจะดำดิ่งลงไปในสำนวนเฉพาะ เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่ประเภทต่างๆ ในการสั่งอาหารกันก่อน: ร้านอาหาร:สถานที่ที่ผู้คนนั่งลงเพื่อรับประทานอาหารที่เตรียมไว้สำหรับพวกเขาในร้านโปรดหรือเพื่อทดลองอะไรใหม่ ๆ มีร้านอาหารหลายประเภทขึ้นอยู่กับอาหารที่เสิร์ฟหรือสไตล์ เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่ง (fine dinning) คาเฟ่: คาเฟ่ส่วนใหญ่จะเน้นเครื่องดื่ม โดยปกติจะให้บริการเฉพาะกาแฟและชาและของว่าง สั่งกลับบ้าน: คำว่า "takeout" หมายถึงอาหารที่ทำในร้านอาหาร แต่หมายถึงการรับประทานข้างนอก เมื่อคุณสั่งกลับบ้าน คุณสามารถเลือกรับจากร้านอาหารเองหรือให้ส่งถึงหน้าประตูบ้านก็ได้ สตรีทฟู้ด:...
อ่านต่อ
การเรียนภาษาใด ๆ ก็ตามสามารถเปิดประตูสู่โอกาสและประสบการณ์ใหม่ ๆ ภาษาฝรั่งเศสก็เช่นกัน ด้วยการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก การเรียนภาษาฝรั่งเศสสามารถพาคุณไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างน่าประหลาดใจไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นจากพื้นฐานหรือเป็นผู้เรียนขั้นสูงที่กำลังมองหาความท้าทาย ทำให้คุณอาจสงสัยว่าประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสนั้นมีกี่ประเทศทั่วโลกกันแน่? อันที่จริง ภาษาฝรั่งเศสถูกใช้เป็นภาษาประจำชาติในประเทศต่าง ๆ มากกว่าภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ซึ่งหมายความว่าเมื่อเรียนภาษาฝรั่งเศส คุณจะสามารถสื่อสารในสองภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดในโลก ทำให้คุณเป็นเป็นประชากรโลกอย่างแท้จริง ดังนั้นหากคุณต้องการเปิดโลกทัศน์และค้นพบวัฒนธรรมใหม่ ๆ การเรียนภาษาฝรั่งเศสอาจเป็นใบเบิกทางสู่โลกกว้างเลยทีเดียว! นอกจากประเทศฝรั่งเศสแล้ว ภาษาฝรั่งเศสยังใช้พูดกันทั่วทุกทวีปในหลายสิบประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในดินแดนโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส รวมถึงประเทศที่อาจจะไม่ได้ใช้ภาษาดังกล่าวเป็นภาษาราชการ ซึ่งหมายความว่าการเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นทักษะที่มีค่าซึ่งสามารถนำไปใช้ในบริบทที่หลากหลายทั่วโลก ขอบเขตของภาษาฝรั่งเศสอาจทำให้คุณประหลาดใจ เนื่องจากมีการใช้ภาษาฝรั่งเศสในหลายภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก มาเจาะลึกและค้นหาว่าโลกแห่งภาษาฝรั่งเศสนั้นกว้างใหญ่เพียงใด! มีกี่ประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในโลก? มี 29 ประเทศในโลกที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ รวมถึงดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส 11 แห่งที่เป็นเขตการปกครองของฝรั่งเศสนอกแผ่นดินใหญ่ของยุโรป ประเทศและภูมิภาคเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วทุกทวีป รวมถึงแอฟริกา แคริบเบียน...
อ่านต่อ
เป็นเรื่องง่ายมากที่จะรู้สึกท้อแท้เมื่อเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ราวกับว่าเราต้องใช้เวลาชั่วนิรันดร์กว่าจะสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วสมบูรณ์ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะหากคุณรู้วิธีการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว คุณก็จะสามารถพูดภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วในเวลาอย่างรวดเร็ว วันนี้ Berlitz ขอเสนอ 12 วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายและเปิดโลกไปพร้อมกัน ก่อนอื่นคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่ากัปตันเรือสามารถนำพาเรือของพวกเขาไปยังจุดหมายปลายทางที่ไกลแสนไกลเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้อย่างไรโดยปราศจาก GPS? สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมจนเกิดความชำนาญและการวางแผนการเดินเรือที่ดี เพราะหากปราศจากความชำนาญและแบบแผนที่ดีแล้ว เรือก็คงแล่นวนรอบ ๆ มหาสมุทรแอตแลนติกอย่างไร้จุดหมาย เช่นเดียวกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง หากปราศจากเทคนิคและแบบแผนที่ดี คุณก็คงต้องเรียนเนื้อหาเดิม ๆ วนไปวนมา จนไม่เห็นพัฒนาการ แต่ถ้าคุณมีการวางแผนการเรียนโดยละเอียดรอบคอบ มันจะช่วยลดเวลาของคุณเพื่อไปสู่เป้าหมายให้เร็วขึ้น มาถึงจุดนี้คุณอาจเริ่มสงสัยว่าวิธีการเรียนภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วต้องเริ่มจากจุดไหน ก่อนอื่นเพื่อที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง คุณควรคำนึงถึง: แผนการเรียนภาษาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ค้นหากลยุทธ์การศึกษาที่เหมาะกับคุณ ติดตามความคืบหน้าที่จะทำให้คุณเสพย์ติดการเรียนอย่างงอมแงม ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก เนื่องจากเมื่อยามคุณรู้สึกมีอุปสรรคขัดขวางหรือรู้สึกถึงความไม่ก้าวหน้า ซึ่งพบว่าเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งที่สำหรับผู้เรียนภาษา ที่มักล้มเลิกการเรียนภาษาอังกฤษของพวกเขา ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ววิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจพอที่จะช่วยหลีกเลี่ยงการถอดใจกลางคันนั้นต้องทำอย่างไร? เราได้รวบรวม...
อ่านต่อ
เพื่อน ๆ เคยได้ยินคำว่า ‘Resilience’ กันไหมคะ? เป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยมากในโลกปัจจุบัน ว่ากันว่ามันเป็นทักษะที่หลายองค์กรนำมาปรับใช้เพื่อแข่งขันในโลกธุรกิจยุคปัจจุบันและต้องการให้พนักงานของตัวเองมีทักษะที่ “ล้มแล้วลุก” อย่างรวดเร็วเมื่อต้องประสบกับปัญหาต่าง ๆ ซึ่งทักษะดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาใช้แค่ในองค์กรเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในยามประสบปัญหา ยกตัวอย่างเช่นในการแข่งขันกีฬา ที่นักกีฬาทุกคนต่างก็ต้องเคยเป็นผู้แพ้มาก่อน แต่ถ้าหากหมั่นฝึกซ้อมและแก้ไขจุดอ่อนของตัวเองได้ ผู้แพ้ก็จะสามารถกลับมาเป็นผู้ชนะ นั่นคือทักษะในการล้มแล้วรีบลุกให้เร็ว ซึ่งเราจะนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังกันในวันนี้ . ความหมายของคำว่า 'Resilience' ก่อนอื่นเรามารู้จักกับคำว่า ‘Resilience’ กันก่อน คำนี้มีหน้าที่เป็น Noun ถ้าจะให้แปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัวเลยก็คือ “ความยืดหยุ่น” ซึ่งนั่นอาจจะทำให้มองไม่เห็นภาพสักเท่าไร เพราะถ้าแปลกันตรง ๆ แบบนี้หลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าคนที่มีคุณสมบัติ Resilience คือคนที่มีร่างกายยืดหยุ่นแบบนักยิมนาสติกก็เป็นได้ ซึ่งคำว่า Resilience นั้น...
อ่านต่อ