Blog
การเรียนรู้การนับเลขภาษาญี่ปุ่นถือเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ภาษา ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางมือใหม่ นักเรียน หรือเพียงแค่หลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น การนับเลขจาก 1 ถึง 100 จะเป็นประโยชน์มาก ในคู่มือนี้ เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับ พื้นฐานของตัวเลขภาษาญี่ปุ่น วิธีการทำงานของระบบการนับ และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์บางประการในการเรียนรู้ตัวเลขเหล่านี้ ระบบตัวเลขของญี่ปุ่น ระบบตัวเลขของญี่ปุ่นค่อนข้างตรงไปตรงมาและส่วนใหญ่จะมีรูปแบบตรรกะเดียวกันกับตัวเลขในภาษาอังกฤษ โดยอิงตามหน่วย 10 ดังนั้น เมื่อคุณเรียนรู้พื้นฐานตั้งแต่ 1 ถึง 10 แล้ว คุณจะพบว่าการสร้างตัวเลขขนาดใหญ่ขึ้นนั้นเป็นเรื่องง่าย ในภาษาญี่ปุ่นมีระบบตัวเลขหลักๆ 2 ระบบ: ตัวเลขจีน-ญี่ปุ่น (ichi, ni, san…) มาจากตัวเลขจีนและใช้สำหรับการนับส่วนใหญ่ ตัวเลขพื้นเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งใช้ไม่บ่อยนักแต่ปรากฏขึ้นในบางสถานการณ์ เช่น การบอกเวลาหรือการนับวัตถุบางอย่าง สำหรับคู่มือนี้ เราจะเน้นที่ ตัวเลขจีน-ญี่ปุ่น...
อ่านต่อ
Greetings are an essential part of any culture, and Thailand is no exception. Whether you’re visiting Thailand for a short trip or planning to stay longer, learning how to say hi in Thai is the first step toward building connections...
อ่านต่อ
Learning Thai numbers is one of the most practical steps you can take when visiting or living in Thailand. Whether you're bargaining at local markets, navigating public transportation, or ordering food, knowing how to count from 1 to 100 in...
อ่านต่อ
หลายๆ คนสนใจเรียนภาษาเกาหลีเพราะความนิยมของ K-pop ซีรีส์เกาหลี และอาหารเกาหลี อย่างไรก็ตามก็อดสงสัยไม่ได้ว่าภาษาเกาหลีเรียนยากจริงอย่างที่คนพูดกันหรือไม่? ความจริงก็คือภาษาเกาหลีมีบางส่วนที่แตกต่างจากภาษาอื่นทำให้ยากต่อผู้เรียนในช่วงเริ่มต้น ในขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่ง่ายกว่าภาษาไทยด้วยซ้ำ สรุปคือภาษาเกาหลีมีทั้งยากและง่ายเช่นเดียวกับภาษาอื่น ๆ แต่ไม่ได้ยากเป็นพิเศษ บางแง่มุมของภาษาเกาหลีอาจดูไม่คุ้นเคยในตอนแรก ในขณะที่บางแง่มุมอาจตรงไปตรงมาอย่างน่าประหลาดใจ มาสำรวจสิ่งที่ทำให้ภาษาเกาหลีทั้งเข้าถึงได้และสิ่งที่ทำให้ภาษาเกาหลีซับซ้อน และวิธีการเรียนภาษาเกาหลีที่ถูกต้องสำหรับผู้เริ่มต้น อะไรที่ทำให้การเรียนภาษาเกาหลียาก? 1. ระดับภาษาในการกล่าวคำยกย่องและระดับมารยาท ภาษาเกาหลีมีระบบคำแสดงความเคารพและระดับการพูดที่ซับซ้อนขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง ตัวอย่างเช่น มีหลายวิธีในการพูดว่า "ขอบคุณ" ในภาษาเกาหลีขึ้นอยู่กับระดับความเป็นทางการ: "고마워" (โกมาวอ) สำหรับสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ "고맙습니다" (โกมาปซึมนีดา) สำหรับบริบทที่สุภาพกว่า และ "감사합니다" (กัมซาฮัมนีดา) สำหรับสถานการณ์ที่เป็นทางการหรือให้เกียรติอย่างมาก ผู้เริ่มต้นมักพบว่าสับสนในการเลือกรูปแบบที่ถูกต้องตามบริบททางสังคม อาจจะฟังดูยากแต่ช้าก่อน ดูไปดูมาก็มีความคล้ายกับภาษาไทยของเราเช่นกัน 2. เสียงที่ไม่คุ้นเคย ภาษาเกาหลีมีเสียงที่ยากสำหรับผู้เริ่มต้น เช่นพยัญชนะที่ออกเสียงตามเสียง เช่น...
อ่านต่อ
การเรียนรู้ภาษาใหม่นั้นเป็นเรื่องท้าทายเสมอ และภาษาเยอรมันมักถูกมองว่าเป็นภาษาที่ยากที่สุดภาษาหนึ่งเสมอ แต่ภาษาเยอรมันนั้นยากจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงมุกตลกที่คนใช้กันในโลกโซเชียล? คำตอบก็คือภาษาเยอรมันก็เหมือนกับภาษาอื่น ๆ ที่มีทั้งส่วนที่ง่ายและส่วนที่ยาก มาสำรวจดูว่าอะไรในภาษาเยอรมันที่ยากและส่วนไหนที่ง่าย และค้นพบวิธีการที่จะทำให้การเรียนรู้ภาษาเยอรมันง่ายขึ้นสำหรับคุณกัน อะไรที่ทำให้ภาษาเยอรมันดูยาก? ภาษาเยอรมันมีมักถูกมองว่ามีความซับซ้อน เนื่องมาจากสาเหตุหลักดังต่อไปนี้: กฎไวยากรณ์ที่ซับซ้อน : ไวยากรณ์ภาษาเยอรมันประกอบด้วยคำนามที่ระบุเพศ (ชาย หญิง และกลาง) ในขณะที่ภาษาอื่นอย่างสเปนหรือฝรั่งเศสมีคำนามระบุเพศแค่ 2 เพศเท่านั้น กรณีไวยากรณ์ 4 กรณี และการผันกริยาที่อาจดูซับซ้อนในตอนแรก การจะเชี่ยวชาญกฎเหล่านี้ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน คำประสมยาว : ภาษาเยอรมันมีชื่อเสียงในเรื่องคำที่ยาว เช่น "Bleistiftspitzer" (ที่เหลาดินสอ) แม้ว่าคำเหล่านี้อาจดูน่ากลัว แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะอธิบายได้ดีและมีรูปแบบเชิงตรรกะ เสียงที่เป็นเอกลักษณ์และการออกเสียง : เสียงภาษาเยอรมันบางเสียง เช่น เสียงในลำคอ "r"...
อ่านต่อ