เราสามารถเรียนพร้อมกันหลาย ๆ ภาษาได้หรือไม่?

การเรียนรู้ภาษาใหม่เป็นความท้าทายที่คุ้มค่าเสมอ แต่จะเป็นอย่างไรหากคุณต้องการเรียนรู้สองภาษาหรือมากกว่านั้นในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบภาษา เรียนภาษาก่อนไปเที่ยว หรือกำลังเตรียมตัวสำหรับโอกาสในการทำงานในต่างประเทศ การเรียนรู้ภาษาหลาย ๆ ภาษาจะเปิดโอกาสให้คุณได้มากมาย
อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้หลายภาษาในเวลาเดียวกันนั้นต้องเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างกันไป เช่นการผสมคำศัพท์หรือการดิ้นรนเพื่อให้พูดแต่ละภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ข่าวดีก็คือการเรียนรู้หลายภาษาในคราวเดียวกันนั้นไม่เพียงแต่ทำได้สำเร็จเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วยหากมีกลยุทธ์ที่เหมาะสม
ในคู่มือนี้ Berlitz จะแนะนำเทคนิคที่ได้รับการพิสูจน์แล้วมาเสนอเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้หลายภาษาได้สำเร็จโดยไม่รู้สึกเครียดมากเกินไป
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับแต่ละภาษา
ก่อนจะเริ่มลงมือให้ลองถามตัวเองก่อนว่า: เราเรียนภาษานี้เพื่ออะไร การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของเวลาในการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น:
-
เรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อธุรกิจหรือใช้ในที่ทำงาน → บางทีคุณอาจทำงานในบริษัทแฟชั่นแบรนด์เนมหรือในอุตสาหกรรมน้ำหอมซึ่งภาษาฝรั่งเศสถูกใช้อย่างกันอย่างแพร่หลาย การเรียนที่เน้นไปที่คำศัพท์เฉพาะทางและทักษะการสนทนาจะช่วยให้คุณสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในที่ทำงาน
-
เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อการท่องเที่ยวหรือไม่ → ฤดูซากุระใกล้จะมาถึงแล้ว และคุณกำลังวางแผนเดินทางเพื่อชมซากุระ การให้ความสำคัญกับวลีทั่วไปและการฟังเพื่อทำความเข้าใจจะช่วยให้คุณเดินทางได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารเป็นภาษาญี่ปุ่น หรือถามทางที่สถานีชินจูกุ
-
ต้องการเข้าใจภาษาเกาหลีเวลาดูซีรีย์ → ปัจจุบันภาษาเกาหลีเป็นภาษายอดนิยมในวงการบันเทิง หากต้องการเพลิดเพลินกับซีรีย์ชื่อดังอย่าง Squid Game ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพึ่งคำบรรยาย ให้เน้นที่การพัฒนาทักษะการฟังและการอ่านของคุณ เพื่อที่คุณจะไม่พลาดการพลิกผันของเนื้อเรื่องที่สำคัญ
การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าภาษาใดต้องใช้ความใส่ใจมากกว่ากัน และปรับแต่งวิธีการเรียนรู้ของคุณให้เหมาะสม
2. เลือกเรียนภาษาคล้ายคลึงกันหรือที่มีความแตกต่างกันดี?
เมื่อต้องเรียนภาษาต่างๆ หลายๆ ภาษา สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าความคล้ายคลึงหรือความแตกต่างของภาษาต่างๆ ส่งผลต่อกระบวนการเรียนรู้ของคุณอย่างไร แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยเกี่ยวกับ cross-linguistic influence (CLI) ซึ่งตรวจสอบว่าความรู้ในภาษาหนึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้หรือการใช้ภาษาอื่นอย่างไร
การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้ภาษาที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เช่น ภาษาสเปนและภาษาอิตาลี จะช่วยให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้นเนื่องจากมีคำศัพท์และลักษณะทางไวยากรณ์ที่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ความคล้ายคลึงกันนี้ยังอาจนำไปสู่ การถ่ายโอนภาษา ซึ่งลักษณะเฉพาะจากภาษาหนึ่งถูกนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องกับอีกภาษาหนึ่ง ทำให้เกิดความสับสน
ในทางกลับกัน การเรียนรู้ภาษาที่มีโครงสร้างแตกต่างกัน เช่น ภาษาฝรั่งเศสและภาษาญี่ปุ่น อาจช่วยลดความเสี่ยงของการรบกวนดังกล่าวได้ ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างภาษาเหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้เรียนสามารถแยกแยะภาษาเหล่านี้ออกจากกันได้ ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนข้ามภาษา
- ภาษาเสริม (เช่นภาษาสเปนและภาษาอิตาลี ) มีความคล้ายคลึงกัน ทำให้เรียนรู้ร่วมกันได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการจัดการอย่างดีก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้เช่นกัน
- ภาษาที่แตกต่างกัน (เช่นภาษาฝรั่งเศสและภาษาญี่ปุ่น) จะช่วยลดความเสี่ยงในการสับสนคำ แต่ต้องใช้วิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
เคล็ดลับ: หากเรียนภาษาที่คล้ายกัน ควรแยกภาษาเหล่านั้นออกจากกันโดยใช้วิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน (เช่นฟังพอดแคสต์ภาษาอิตาลีแต่อ่านหนังสือภาษาสเปน)
3. สร้างแผนการเรียนที่ชัดเจน
การจัดตารางเวลาที่ดีจะช่วยป้องกันความสับสนและช่วยให้ดำเนินไปอย่างมั่นคง ต่อไปนี้เป็นแนวทางการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ 3 ประการ:
-
วิธีการบล็อกเวลา → กำหนดวันหรือช่วงเวลาที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละภาษา
- ตัวอย่าง:
- วันจันทร์ & วันพุธ → ภาษาฝรั่งเศส
- วันอังคาร & พฤหัสบดี → ภาษาสเปน
- วันศุกร์ → ทบทวนทั้งสอง
- ตัวอย่าง:
-
แนวทางการเรียนรู้ภาษาหลักและภาษาที่สอง → มุ่งเน้นที่ภาษาหนึ่งอย่างเข้มข้นในขณะที่ยังคงรักษาการเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ไว้
-
วิธีการโฟกัสแบบหมุนเวียน → ศึกษาภาษาหนึ่งอย่างลึกซึ้งเป็นเวลาหนึ่งเดือน จากนั้นจึงเปลี่ยนโฟกัสไปที่อีกภาษาหนึ่ง
เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการเรียนรู้ของคุณมากที่สุด

4. ใช้แนวทางการเรียนรู้ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละภาษา
เพื่อลดความสับสน ให้เชื่อมโยงแต่ละภาษากับวิธีการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน:
- ภาษาฝรั่งเศส → เรียนตามจังหวะของคุณเองโดยสมัครใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วยตนเอง เช่น Berlitz CyberTeachers
- ภาษาสเปน → การอ่านหนังสือและฝึกเขียน
- ภาษาเยอรมัน → ฝึกพูดภาษาเยอรมันกับครูสอนพิเศษเจ้าของภาษา
การแยกความแตกต่างนี้จะช่วยให้สมองของคุณจัดหมวดหมู่แต่ละภาษาแยกจากกัน
5. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อม
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ภาษาใด ๆ ก็คือการเรียนรู้แบบลงลึก ค้นหาวิธีสร้างสรรค์ในการนำภาษาเป้าหมายของคุณเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน:
- กลุ่มแลกเปลี่ยนภาษา : สนทนากับเจ้าของภาษาแบบออนไลน์หรือแบบตัวต่อตัว
- การเปิดรับสื่อ : ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง และอ่านหนังสือภาษาต่างๆ
- การฝึกพูดทุกวัน : แม้ว่าคุณจะกำลังเรียนรู้ด้วยตัวเองก็ตาม ก็ควรพยายามพูดออกเสียงดังๆ ทุกวันกับตัวเอง
Berlitz Thailand นำเสนอหลักสูตรติวตัวต่อตัวแบบยืดหยุ่นและหลักสูตรออนไลน์แบบโต้ตอบเพื่อฝึกฝนการพูดอย่างเป็นระบบกับอาจารย์เจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์ ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับการสนทนาจริงและพัฒนาความคล่องแคล่วได้เร็วขึ้น ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น หรือสเปน การฝึกฝนกับอาจารย์มืออาชีพจะช่วยสร้างความมั่นใจและความแม่นยำได้
6. ติดตามความคืบหน้าของคุณและปรับเปลี่ยนเมื่อจำเป็น
การเรียนรู้ภาษาไม่ใช่เส้นทางตรง แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามทาง
- จดบันทึกการเรียน หรือใช้แอปติดตามเพื่อบันทึกการฝึกฝนประจำวันของคุณ
- ทุกๆ สองสามเดือน ให้ประเมินว่าภาษาใดที่ต้องได้รับความสนใจมากขึ้น
- หากรู้สึกว่าภาษาใดภาษาหนึ่งถูกละเลย ให้ปรับตารางเวลาของคุณใหม่เพื่อให้มีสมาธิกับภาษานั้นๆ มากขึ้น
การติดตามความคืบหน้าช่วยรักษาสมดุลและรับประกันความสำเร็จในระยะยาว
7. สร้างแรงบันดาลใจและอดทน
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว การเรียนรู้หลายภาษาในคราวเดียวก็คือการเดินทางในระยะยาวเช่นกัน คุณอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีเพื่อให้พูดได้อย่างคล่องแคล่ว หรืออาจะเร็วกว่านั้น แต่ความก้าวหน้าอาจดูช้ากว่าเมื่อเทียบกับการมุ่งเน้นแค่ภาษาเดียว แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่าเพราะคุณได้ 2 ภาษา
วิธีที่จะมีแรงบันดาลใจ:
- เฉลิมฉลองกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ (เช่นสามารถสนทนากับเจ้าของภาษาได้แบบง่าย ๆ หรืออ่านหนังสือจนจบเล่ม)
- ตั้งความท้าทายที่สนุกสนาน (เช่นลองสั่งอาหารในภาษาที่เรียนที่ร้านอาหารขณะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศนั้น)
- เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ภาษาเพื่อรับการสนับสนุนและกำลังใจ
โปรดจำไว้ว่า: ความพากเพียรเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งคุณมีความสม่ำเสมอและมีส่วนร่วมมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ภาษาต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น และสิ่งนี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะช่วยได้

การจัดการหลายภาษาให้สมดุลอาจดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่ด้วยกลยุทธ์ที่ถูกต้อง เช่นการจัดตารางเวลาอย่างเป็นโครงสร้าง การฝึกฝนอย่างเต็มที่ และการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถพูดได้คล่องมากกว่าหนึ่งภาษาในเวลาเดียวกันได้
หากคุณต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและหลักสูตรที่มีโครงสร้างชัดเจนเพื่อเร่งความก้าวหน้าของคุณ Berlitz Thailand มีหลักสูตรฝึกอบรมภาษาแบบมืออาชีพที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาเดียวหรือเรียนหลายภาษา ครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ของเราสามารถช่วยให้คุณก้าวไปในเส้นทางและบรรลุเป้าหมายด้านภาษาของคุณได้
เริ่มต้นการเดินทางในหลายภาษาของคุณวันนี้—สมัครหลักสูตรภาษากับ Berlitz Thailand!